รู้ก่อนใช้บริการรับสร้างบ้าน
แม้ปัจจุบันโครงการอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่จะมีบ้านสำเร็จรูปให้เลือกซื้อได้ตั้งแต่แบบแปลนภายนอกถึงการตกแต่งภายใน แต่หากต้องการบ้านที่ตอบโจทย์โดนใจแบบบ้านในฝัน บริการรับสร้างบ้านยังคงเป็นทางเลือกที่เรานึกถึง
ลองดูกันว่า สิ่งที่เราต้องเตรียมตัวรู้ก่อนใช้บริการรับสร้างบ้านมีอะไรบ้าง
• รู้เขา
ก่อนจะต้องเผชิญกับปัญหาบ้านที่ได้รับไม่ตรงตามสัญญาหรือผู้รับเหมาทิ้งงาน อันดับแรกเราจำเป็นต้องรวบรวมข้อมูลของผู้ให้บริการรับสร้างบ้านในตลาดทั้งหมด โดยเฉพาะบริษัทที่ไม่เคยมีประวัติเสียด้านการให้บริการมาก่อน ตรวจสอบใบอนุญาตก่อสร้างและใบอนุญาตทางธุรกิจ ก่อนจะคัดเลือกผู้ให้บริการรับสร้างบ้านอย่างน้อย 2-3 ราย เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างต้นทุนการก่อสร้าง คุณภาพของงาน ความสะดวกและความพึงพอใจในการใช้บริการ
สำหรับรายละเอียดที่ใช้เปรียบเทียบส่วนใหญ่ผู้ให้บริการมักให้ข้อมูลที่แสดงถึงความเป็นมืออาชีพและความสามารถในงานก่อสร้างอย่างเต็มที่ เช่น ในบางบริษัทอาจจะมีแบบบ้านให้เลือกเกือบ 1,000 รูปแบบ และคิดราคาให้บริการเป็นตารางเมตร ช่วยให้เราสามารถนำมาคิดเปรียบเทียบได้ง่ายขึ้น รวมถึงเราควรพิจารณาในรายละเอียดด้านระบบการบริหารและจัดการของบริษัทให้บริการรับสร้างบ้าน ตารางการก่อสร้างที่เป็นลำดับขั้นตอน ลักษณะการทำงานว่าเป็นผู้ก่อสร้างเองหรือให้ผู้รับเหมาช่วง พร้อมทั้งจำนวนร้านค้าตัวแทนจำหน่ายวัสดุก่อสร้างในเครือข่ายที่พร้อมให้การสนับสนุนด้านวัสดุ
ทั้งหมดนี้ควรใช้เวลาพิจารณาอย่างค่อยเป็นค่อยไป และใช้ความระมัดระวังรอบคอบมากที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดข้อยุ่งยากตามมาในภายหลัง
• รู้เรา
นอกเหนือจากการมองหาผู้ให้บริการรับสร้างบ้านที่ดีและตอบโจทย์แล้ว บ้านในฝันจะเป็นจริงได้ยังขึ้นอยู่กับการนำเสนอแนวคิดและรูปแบบบ้านที่ต้องการ รวมถึงการปรึกษาหารือกับผู้ให้บริการรับสร้างบ้านถึงความเป็นไปได้และระยะเวลาการก่อสร้างให้ได้ตามที่กำหนด ตลอดจนขนาดของงานก่อสร้าง และงบประมาณที่ใช้ เพื่อคำนวณต้นทุนออกมาเป็นตารางเมตร ซึ่งผู้ให้บริการรับสร้างบ้านอาจจะสอบถามในรายละเอียดเพิ่มเติม เช่น จำนวนและอายุของผู้อยู่อาศัยในบ้าน เพื่อกำหนดจำนวนห้องนอน ห้องน้ำ ขนาดของห้องครัวหรือห้องอื่นๆ ที่ต้องการใช้งาน พร้อมทั้งรายละเอียดเทคโนโลยีการก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง เช่น แผ่นพื้นสำเร็จรูปที่ผู้ให้บริการนิยมนำมาใช้เพื่อลดต้นทุนการผลิตและช่วยให้ขั้นตอนการก่อสร้างรวดเร็วขึ้น
• ทำสัญญาว่าจ้าง
หลังจากสรุปรายละเอียดและความต้องการทั้งหมดกับผู้ให้บริการรับสร้างบ้านแล้ว เราจำเป็นต้องใส่รายละเอียดทั้งหมดไว้ในสัญญาว่าจ้าง โดยครอบคลุมตั้งแต่เริ่มให้บริการจนกระทั่งก่อสร้างโครงการสำเร็จ การกำหนดวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง ระยะเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุด งบประมาณที่ต้องใช้หรือมูลค่างานก่อสร้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะกำหนดจ่ายชำระเป็นงวดตามความคืบหน้าของงานในแต่ละช่วง โดยสัญญาจะกำหนดให้มีการตรวจรับงานเป็นระยะ เพื่อควบคุมความคืบหน้าของงานก่อสร้าง รวมถึงข้อกำหนดและเงื่อนไขพิเศษกรณีที่เราต้องการแก้ไขเพิ่มเติม หรือการชดใช้กรณีผู้ให้บริการรับสร้างบ้านผิดสัญญาหรือไม่ทำตามข้อตกลง
• ติดตามความคืบหน้าของงาน
เมื่อทำสัญญาว่าจ้างและเริ่มก่อสร้างแล้ว เรายังจำเป็นต้องติดตามความคืบหน้าของงานอย่างใกล้ชิดเป็นระยะ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหายุ่งยากตามมาในภายหลัง เช่น บ้านก่อสร้างไม่ทันตามกำหนดระยะเวลา ผู้รับเหมาทิ้งงาน หรือบ้านไม่ตรงตามที่ตกลงกันไว้ โดยควรแบ่งเวลาเดินทางตรวจงานบริเวณก่อสร้างอย่างน้อย 3 ครั้งก่อนส่งมอบงาน เพื่อตรวจสอบขั้นตอนการทำงาน และแนวทางการก่อสร้างให้เป็นไปตามสัญญาหรือข้อตกลง
• การตรวจรับมอบบ้านและแก้ไขงาน
ก่อนเซ็นสัญญาตกลงรับมอบบ้าน เราควรตรวจสอบการก่อสร้างงานแต่ละส่วนอย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็น การเดินสายไฟ เพดาน ผนัง ความละเอียดของการทาสี การฉาบปูนที่ต้องมีความเรียบร้อยสม่ำเสมอ หากพบข้อบกพร่องก็สามารถทำเครื่องหมาย เพื่อแจ้งกับผู้ให้บริการแก้ไข รวมถึงการตรวจสอบวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้าน เช่น การติดตั้งประตูหน้าต่าง ความเรียบร้อยของพื้น รอยต่อหรือรอยเปื้อนต่างๆ และความแข็งแรงทนทาน ซึ่งหลังจากตรวจสอบและแจ้งการแก้ไขแล้ว เราควรกำหนดระยะเวลาในการดำเนินการอย่างชัดเจน โดยส่วนใหญ่งานก่อสร้างจะมีช่วงเวลารับประกันผลงานตามประเภทของงาน เมื่อแก้ไขเรียบร้อย เราจึงสามารถนัดทำสัญญาส่งมอบงานได้
ท้ายสุด สิ่งสำคัญของการใช้บริการรับสร้างบ้าน คือ ความใส่ใจและให้เวลาในแต่ละขั้นตอน ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นคัดเลือกผู้ให้บริการ การก่อสร้าง กระบวนการร่างสัญญาที่ชัดเจนและรัดกุม การติดตามการก่อสร้างหรือการทำงานให้เป็นไปตามข้อตกลง รวมถึงขั้นตอนการตรวจรับมอบบ้าน และสั่งดำเนินการแก้ไขทันทีเมื่อพบความผิดปกติหรือข้อบกพร่อง เพื่อให้ได้บ้านในฝันที่ตอบโจทย์ตามความต้องการอย่างแท้จริง